Wednesday, July 25, 2007

เรื่องราวยุ่งๆ

ไม่ได้คิดว่าจะเขียนอัพเดทด้วยซ้ำเพราะสมองกำลังคิดปั่นเปเปอร์ส่งอาจารย์อยู่ เเต่นั่งไปนานๆดันคิดไม่ออก เลยต้องหาไรทำคั่นเวลาซักหน่อย สองสามอาทิตย์ที่ผ่านมา รู้สึกเหมือนยุ่งๆยังไงไม่รู้ เริ่มจากการเข้าไปนัวเนีย คลุกวงใน กะพวกอาจารย์ที่คณะเรื่องขอทุนการศึกษาภาคเรียนหน้า เนื่องจากำลังทรัพย์ที่มีอยู่เริ่มร่อยหรอไปตามกาลเวลา เหมือนๆกันการ take derivative of personal savings respect to time มีเครื่องหมายสัมประสิทธิ์ติดลบอยู่ข้างหน้า เเถมต้องเริ่มวางเเปลนวิชาเรียนอีกหกตัวที่เหลือ อีกทั้งเรื่องโอนหน่วยกิต จิปาถะกันจริงๆช่วงนี้ อาจารย์ที่ปรึกษาก็อุตส่าห์หาทางออกให้หลายๆเรื่อง ทั้งเรื่องเรียนก่อนจ่ายที่หลัง มหาลัยอื่นจะมีเเบบนี้มั๊ยวะเนี่ย สุดท้ายฟ้ายังประทานโอกาสให้เรียนต่อ อาจารย์ให้เงินทุนเป็นเปอร์เซนต์ส่วนลดมาหน่อย พ่วงกะได้ตำเเหน่งผู้ช่วยวิจัย เลยรอดตัวไป เรื่องเรียน

ยังไม่พอ มันยังไม่พอ ดันมีเรื่องบ้านมาให้สมองได้ออกกำลังกายซักเล็กน้อย เนื่องด้วยอพาร์ทเมนต์ที่ผมอยู่เนี่ยเป็นหอพักนักศึกษาของ รร สอนทางด้านศาสนา ซึ่งมันก็อยู่ตรงข้ามมหาลัยผมนี่เเหละ ถ้าคุณกำลังจะตั้งคำถามว่าเเล้วหอมหาลัยไม่มีให้อยู่เหรอ ก็ต้องถอนหายใจออกมาเฮือกนึงก่อน เเล้วตอบว่ามี เเต่การจะได้ห้องสักห้องนึงมาจากผู้ดูเเลหอนี่ช่างยากเย็นเเสนเข็ญเหลือเกิน เเถมเมื่อเทียบกับค่าเล่าเรียนที่จ่ายไปในราคามหาลัยเอกชน เเต่สิ่งอำนวยความสะดวกช่างต่างกันลิบลับ มหาลัยรัฐส่วนใหญ่ยังดีเสียกว่า เรื่องมันก็มีอยู่ว่าทางเหล่าสมาชิกบ้านผมลองไปคุยกับคนดูเเลหอของ รร ศาสนา ว่าพอมีห้องที่มีสองห้องนอนที่ถูกกว่านี้มั๊ย เพราะรุ่นพี่ผมไปสืบทราบมาว่ามีห้องว่างหนึ่งห้องซึ๋งเป็นห้องนอนเดียวเเต่เค้าตีฝาห้องรับเเขกเป็นสองห้องนอนไว้เเล้ว ซึ่งราคาก็ถูกกว่า สรุปเค้าก็บอกว่าห้องนี้ว่างลงสามารถให้พวกผมเข้าไปจับจองได้ เเต่เหตุการณ์กลับตาลปัตรไปเล็กน้อย เนื่องด้วยคนดูเเลหอไม่เคยบอกกล่าวหรือให้เซ็นสัญญาเช่าเป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะให้เราไปอยู่ อีกทั้งเค้าได้อ้างว่างรูมเมทผมอีกคนได้ไปยืนยันเรียบร้อยเเล้วว่าจะย้ายโดยที่ยังไม่ได้ถามผมเป็นกิจลักษณะ เค้าจึงเอาห้องที่พวกผมหลับนอนอยู่ให้กะเด็ก นศ​ รร ศาสนาไปเรียบร้อยเเล้ว เรื่องมันคงจะง่ายถ้าเราย้ายไปเเค่สองคน เเต่ดันเป็นสามคนนี่ซิ ที่ๆจะย้ายไปก็จะเล็กอย่างถนัดตา เพราะบังเอิญเราได้รูมเมทใหม่มาเทคโอเวอร์ห้องเก่า เเต่ทางหอเกิดไม่พอใจอย่างเเรงที่เราจะบอกว่าไม่ย้าย ตัวหัวหน้าเลยโทรมาด่ารูมเมทอีกคน เเถมขู่เข็ญเชิงขับไล่ว่าไม่ให้อยู่เเล้ว ไม่ว่าห้องเก่าห้องใหม่ เดือดร้อนละซิครับพี่น้อง ผมเลยต้องไปคุยเองในวันรุ่งข้นว่าเรื่องมันไปมายังไง เเล้วสัญญาเช่าเราหมดเเล้วหรืออย่างไรถึงไล่ให้ออกจากหอโดยไม่ต้องเเจ้งล่วงหน้า

ผลปรากฏว่าสัญญาเช่าเราหมดไปเเล้วสองวัน แล้วเค้าก็ทำอะไรไม่ได้ด้วย อีกทั้งการจะไปบอกยกเลิกว่าจะไม่ให้คนเช่าใหม่เช่าก็ไม่ได้ เพราะเค้าเป็นเด็กของ รร เค้า ไอ้เรามันเเค่เด็ก รร ตรงข้าม ผมก็เลยขอผ่อนผันไปสักสองสามอาทิตย์ก่อน ก็อ้างนู้นอ้างนี่ไปก่อน เค้าก็ค่อนข้างเห็นใจเพราะมันเกิดจากการสื่อสารที่ผิดพลาด ก็เลยให้อยู่อีกสองอาทิตย์ พวกผมเลยต้องเปิดหาประกาศให้เช่าบ้าน ภายใต้เงื่อนไงที่ต้องใกล้มหาลัยเนื่องจากพี่รมเมทคนนึงไม่มีรถ ก็เลยเริ่มต้นเเก้โจทย์ยากหน่อย เเต่ก็หาได้ไม่นานก็เจออพาร์ทเมนต์ตรงข้ามกับ Harvey Mudd College ซึ่งระยะเดินเท้าผมว่าใกล้กว่าที่เก่าชัวร์ เป็นสามห้องนอนสองห้องน้ำ มีห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องกินข้าว เป็นสัดส่วนมาก พื้นที่ใช้สอยถือว่ากว้างขวางมากเมื่อเทียบกับที่อยู่เดิม สุดท้ายเราก็คุยกันจนตกลงว่าจะเอาห้องนี้เเหละ โดยที่ห้องนี้เค้าก็กำลังซ่อมเเซม ทาสี เปลี่ยนพรม ให้อยู่ เราก็พยายามขอร้องว่าขอย้ายเข้าเร็วหน่อย เพราะเหลืออีกไม่กี่วันก็จะถึงเส้นตายย้ายออกเเล้ว สรุปเเล้วเราก็ได้กุญเเจห้องมาก่อนประมาณหนึ่งวันก่อนถึงเส้นตาย คราวนี้ก็ย้ายข้าวของกันกระหน่ำละ่ครับพี่น้อง วันเสาร์เย็นผมก็เริ่มขนพวกเสือ้ผ้า พวกเครื่องอาหารเเห้ง หนังสือเรียนไปบ้านใหม่ก่อน เพราะมันหยุมหยิมมาก ก็เริ่มขนเริ่มจัดเริ่มทำความสะอาดบ้านใหม่ตั้งเเต่หกโมงครึ่งยันเที่ยงคืน ก็เสร็จไปเยอะพอควร พอรุ่งเช้าวันอาทิตย์ก็เริ่มโซโลกันตั้งเเต่เจ็ดโมงเช้าเลย เอาเสือ้ผ้าไปซัก ขนของที่พอขนได้ก่อน รอขนของใหญ่ๆ พวกเตียง ตู้ โต๊ะ เก้าอี้ ตอนบ่ายๆ ก็ขนกันทั้งวันละครับ ตอนบ่ายๆก็มีเพื่อนฝูงมาช่วยคนละนิดละน้อย จริงๆช่วยเยอะนะครับ ก็ย้ายของออกหมดประมาณหกโมงเย็น คราวนี้ก็เริ่มหิวซิครับก็ไปนั่งพักหาไรกินกันก่อน เพราะต้องกลับมาทำความสะอาดบ้านเก่าอีก สรุปกว่าจะเลิกทำเลิกจัดก็ปาเข้าไปตีสองอีกวัน เเล้วดันต้องไปทำงานตอนเช้าด้วย ถึอได้ว่าตัวเองเป็นคนชั้นกรรมาชีพจริงๆ เพื่อนยังบอกว่ามึงเป็นเเรงงานประเภท labor intensive จริงๆ

ยังไม่หมดครับท่านไอ้เครื่องเเมค ibook ผมดันเกิดอาการงอเเงมาให้เห็น อยู่ดีๆดันบู๊ทเครื่องไม่ติด จะติดบ้างก็น้อยครั้งตอนเเรกยังนึกว่าอาจจะมีปัญหากับทางโอเอส เเต่หลังๆคิดว่าน่าจะมีปัญหาทางด้านหน่วยความจำหรือไม่ก็ตัวฮาร์ทดิสมากกว่า ก็ลองคำนวนค่าซ่อม ค่าอุปกรณ์ เบ็ดเสร็จ ได้ความว่าซื้อเครื่องใหม่น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า ก็เลยตัดใจเอาเงินที่ตั้งใจจะประมูลกีตาร์บนอีเบย์มาซื้อเเล๊ปท๊อป ก็ตกลงซื้อ macbook กับ ipod video นี่เเหละท่าจะคุ้มสุดเพราะได้ลดประมาณร้อยเหรียญจากโครงการส่วนลดคอมนักศึกษา ได้รีเบทสองร้อยเพราะซ์้อควบกับ ipod แล้วผมก็ขายไอ้ตัว ipod ให้กะรูมเมทในราคาตัดสุดๆ สองร้อยบวกค่าภาษี ก็สรุปได้ส่วนลดไปพอควร เเต่ไอ้ที่เจ็บใจก็เพลงเกือบสามพัน โน๊ตเพลงกีตาร์ที่สะสมเป็นร้อยๆ เอกสารอิเล็กโทรนิกส์ เปเปอร์ที่ทำมา เเม่งหายหมด โคตรเสียเวลาเลยในการที่จะดาวน์โหลดมาใหม่ ไม่โดนกับตัวคงไม่ทราบครับว่าความเจ็บใจมีจริง เเล้วก็เสียเวลาอีกด้วย

สรุปเรื่องวุ่นก็ยังเล่าไม่จบเเต่ก็เป็นเเค่เรื่องเล็กๆน้อยที่เข้ามาพร้อมกันก็เท่านั้นเอง

1 Comments:

At 3:25 AM, Anonymous Anonymous said...

โห พี่ ฮาร์ดดิสก์กู้ไม่ได้นี่ตายทั้งเป็นเลยนะ ทุกอย่างอยู่ในคอมหมด ตอนนี้ก็เสียว external harddisk อยู่ มันเสียบแล้วเห็นบ้างไม่เห็นบ้าง ชักไม่ได้การณ์ละ คงต้องไรท์ใส่แผ่นซีดีเก็บไว้บ้าง

ดีใจด้วยนะคะทั้งเรื่องทุน กับเรื่องตำแหน่งผู้ช่วยวิจัย

 

Post a Comment

<< Home