Sunday, February 12, 2006

คนเลี้ยงหมา


ตั้งเเต่เด็กจนโตชีวิตผมเรียกได้ว่ามีหมามากหน้าหลายพันธุ์ผ่านเข้ามาในชีวิต จำได้ว่าหมาตัวเเรกๆที่ผมสามารถขี่หลัง จับหู ตบปากมันได้นี่เป็นพันธุ์โดเบอร์เเมนชื่อไอ้เเมค เเม่ผมเล่าให้ฟังว่ามันเป็นหมาที่รักผมมาก เปรียบเสมือนพี่เลี้ยงก็ว่าได้เนี่องจากมันจะคอยระเเวดระวังไม่ให้คนเเปลกหน้ามาจับหรืออุ้มผม ซึ่งความซึ่อสัตย์เเละรักเจ้าของของมันนี่นอกจากจะเป็นลักษณะเฉพาะของหมาพันธุ์โดเบอร์เเมนเเล้ว ผมสันนิษฐานเอาว่าคงเป็นลักษณะเฉพาะตัวของหมาตัวนั้นด้วย และขึ้นอยู่กับการเลี้ยงของเจ้าของว่าให้ความรักเอาใจใส่อย่างไร สุดท้ายด้วยความสื่อสัตย์เเละภักดีของมันอาจจะทำให้ใครบางคนไม่ชอบขี้หน้ามัน ไอ้เเมคของผมก็โดนวางยาเบื่อตาย

หมาตัวถัดมาที่บ้านผมเลี้ยงนี่เป็นพันธุ์อัลเซเชี่ยนหรือภาษาทางการที่เค้าเรียกกันว่าเยอรมันเชฟเพริด คราวนี้มีมาให้เลือกสองตัวเลยจำได้ว่าเจ้าตัวใหญ่นี่ชื่อโจโจ้ ตัวมันใหญ่มากตามมาตรฐานเยอรมัน ส่วนอีกตัวนี่ตัวเล็กกว่าเยอะเลยเเต่สวยมากเป็นพันธุ์อัลเซเชียนสายกระรอก ทั้งสองตัวนี่ก็มีความซื่อสัตย์ภักดีไม่เเพ้เจ้าเเมค เเต่วีรกรรมปกปักษ์รักษาผมคงไม่เท่าเจ้าเเมคเท่าไหร่

ตัวสุดท้ายที่ผมค่อนข้างรักมากนี่เป็นพันธุ์อเมริกันพิทบูลเทอร์เรีย ตัวนี้เนี่ยผมพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าเลี้ยงมากับมือ จะเรียกว่ารักมากที่สุดก็ว่าได้ เพราะผมเลี้ยงมันตอนที่ผมอายุประมาณ 14-15 เริ่มมีความผูกผันกับสิ่งที่อยู่รอบข้างมากขึ้น ผมให้ข้าวให้น้ำ เลี้ยงด้วยนมวัวกล่องใส่ไข่ลวก อาบน้ำ ล้างกรงหมา เอาขี้มันไปทิ้ง และอื่นๆอีกมากมาย ผมเคยลองทดสอบดูเล่นๆโดยให้คนที่บ้านเข้ามาเขย่าตัวผม ผมก็เเกล้งร้องดังๆ ประมาณว่าสำออยว่ากูกำลังโดนฆ่า ปรากฎว่าสันชาตญาณความรักเจ้าของๆมันนี่ บอกให้มันเห่า ขู่กรรโชก เเสดงอารมณ์ของมันออกมาว่า มึงเปล่าเจ้านายกูซะ (อันนี้ไม่ได้เข้าใจภาษาหมานะครับ เเต่คงตีความเป็นอย่างอื่นไม่ได้ เรื่องบางเรื่องภาษาก็มิใช่ปัจจัยสำคัญในการสื่อสาร หากเเต่ใช้ความรู้สึกในการรับรู้เเทน)

อันนี้เเค่ระดับเรียกน้ำย่อยเท่านั้นนะครับ ที่จริงบ้านผมยังมีหมาอีกหลายตัวต่อคิวให้ผมเล่าเรื่องอีกเยอะ เเต่ติดที่ว่าผมคงไม่มีเวลาสาธยายสรรพคุณของเเต่ละตัวได้หมด เเต่หมาตัวถัดไปที่ผมอยากจะเล่าให้ฟังเนี่ย ผมไม่ได้เลี้ยงเองนะครับ เพียงเเต่ว่าได้เห็นมาเป็นเวลานานเเล้ว จำได้ครั้งเเรกที่เริ่มจำความได้เนี่ยมันได้อยู่บ้านของประชากรไทยมาเป็นเวลาพอสมควร (ก่อนหน้านี้เคยอยู่ที่อื่นมาก่อน) เสียงเห่าหอนของมันนี่ก่อให้เกิดความรำคาญไปทั่ว เห่าไม่เลือกหน้ากัดไม่เลือกที่ สร้างความเอือมระอาให้กับผู้ที่พบเห็นพอสมควร อาจเรียกได้ว่าเป็นหมาปากเปราะที่ไม่มีเจ้าของคอยดูเเล เฝ้าสังเกตุอยู่นานพอสมควรว่ามันเป็นพันธุ์อะไร ก็ไม่เเน่ใจสักทีว่าจะฟันธงเเบบหมอลักษณ์ ฉับ ฉับ ได้อย่างไร

พักหลังๆยิ่งเเล้วใหญ่เร่ร่อนย้ายบ้านไปเรื่อย ได้เข้ามาอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานครได้พักนึง ก็เร่ร่อนพเนจรออกสู่โลกเเคบของมันไปเรื่อยย้ายบ้านไปตามที่ๆมีคนให้ข้าวกิน เลี้ยงดูปูเสื่อ จนปัจจุบันนี้มันก็เดินทางมาได้จนถึงวัยที่ควรจะได้พักผ่อนอยู่อย่างสงบตามอัตภาพของมัน เนื่องจากเขี้ยวเล็บเเละกำลังวังชา คงสู้กับหมาหนุ่มๆสาวๆ ไม่ได้แล้ว เเต่การกลับได้เป็นเช่นนั้นไม่ วุฒิภาวะของมันไม่ได้ช่วยให้จิตของมันไตร่ตรองได้เลยว่าควรเห่าหรือควรเงียบเฝ้ามองเหตุการณ์อยู่ห่างๆ กลับเห่าตามอำเภอใจของมันต่อไปโดยหาได้รู้ไม่ว่า การกระทำของมันเองได้ก่อให้เกิดความไม่พอใจของหมาตัวอื่นๆ

ผมในฐานะคนเลี้ยงหมาหรือถ้าจะให้ถูกต้องเรียกว่าคนเคยเลี้ยงหมา เนื่องจากว่าผมได้จากบ้านผมามาเป็นเวลานานเเล้ว หมาที่ผมเคยเลี้ยงไว้ก็ได้ตายจากไปหมดเเล้วด้วยเงื่อนไขของกาลเวลา คงไม่มีคำบรรยายใดๆหลุดออกมาจากปากของผม คงได้เเต่เก็บความสงสารเอาไว้ว่าสักวันนึงมันคงจะรอดจากเขี้ยวเล็บของหมาหนุ่มสาว โดยไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เพราะมันก็เเก่มากเเล้ว ถ้าเกิดมาเจ็บป่วยในช่วงวัยสุดท้ายของชีวิตมัน มันคงเจ็บระทมลำบากมิใช่น้อย แล้วคราวนี้มันจะต้องระเห็ดระเหินไปอยู่ที่ไหนอีกละ ใครจะเอายามาทาให้มันเพื่อรักษาสะเก็ดเเผลจากคมเขี้ยว

เเต่มาคิดอีกทีโลกนี้มันช่างไม่มีอะไรเเน่นอน คงเป็นกฏเเห่งกรรมของตัวมันนั่นเองที่ต้องรับผิดชอบต่อข้อเท็จจริงนี้ต่อไป

1 Comments:

At 9:23 PM, Anonymous Anonymous said...

ยารักษาสุนัขขี้เรื้อนทุกชนิด เห็นผลภายใน 1 ขวด รับประกันความพอใจ ไม่เห็นผลยินดีคืนเงิน สนใจแวะชมได้ที่ www.keelearn.com

 

Post a Comment

<< Home