Monday, January 16, 2006

คำพิพากษาจากนายก

บทความนี้ผมเขียนเนื่องมาจากได้รับการเสพย์ข่าวสารบางเรื่องตามหน้าหนังสือพิมพ์ออนไลน์ฉบับหนึ่งซึ่งมียอดผู้อ่านสูงสุดในตอนนี้ ตอนเเรกตั้งใจว่าจะเขียนเป็นภาษาอังกฤษเเต่คิดไปคิดมาอีกที ผมมีเพื่อนๆต่างชาติก็เยอะที่เเวะเวียนมาอ่านบล็อคอยู่เนืองๆ บอกตรงๆว่าผมอายที่จะเขียนประจานประเทศตัวเองให้คนต่างชาติเค้ารับรู้

สืบเนื่องด้วยนางสาว แคเธอรีน ฮอร์ตัน นักศึกษาสาวด้านจิตวิทยา เเห่งมหาวิทยาลัยรีดดิ้ง ได้เดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองไทย แล้วได้พบเป็นร่างไร้วิญญาณลอยน้ำบริเวรหาดท้องครก เกาะสมุย เบื้องตนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ได้ตั้งข้อสันนิษฐานการตายของนักศึกษาสาวผู้นี้ว่าอาจจะถูกทำการล่อลวงมาข่มขืนแล้วฆ่าทิ้ง ซึ่งก็ได้มีการส่งศพนักศึกษาสาวผู้นี้ไปทำการตรวจสอบชันสูตร ณ สถาบันนิติเวชวิทยา สำนักงานตำรวจเเห่งชาติ

ผลของการสืบสวนได้ข้อสรุปว่านักศึกษาสาวผู้นี้ได้ถูกกระทำชำเราก่อนที่จะเสียชีวิต เนื่องจากขาดอ๊อกซิเจนในน้ำ และการตรวจสอบของคราบอสุจิยังเป็นตัวชี้บ่งไปยังผู้ต้องสงสัย ซึ่งต่อมาก็คือผู้กระทำความผิด คือ บัวลอย โพธิสิทธิ์ และ วิชัย สมเขาใหญ่ ซึีงเเน่นอนครับข่าวเชิงลบในลักษณะเช่นนี้ย่อมไม่ก่อให้เกิดผลดีต่อการโปรโมทให้ประเทศไทยเป็นเมืองเเห่งการท่องเที่ยว ดินเเดนสยามเมืองยิ้ม อันหมายถึงเม็ดเงินที่จะไหลเข้ามาในประเทศอาจจะชะลอตัวลงได้

ผมไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นเพราะประเด็นนี้รึเปล่าท่านนายกทักษิณของกระผม จึงเป็นเดือดเสียเหลือเกินจนให้สัมภาษณ์กับทางสื่อมวลชนว่าหากพิสูจน์ได้จริงว่าหากผู้ต้องสงสัยได้รับการตรวจสอบแล้วมาได้กระทำการผิดจริง ผู้กระทำความผิดทั้งสองสมควรเสืียเหลือเกินที่จะต้องถูกตัดสินประหารชีวิต เพราะได้ทำให้ประเทศไทยเสียชื่อเสียง และยังมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว

คงไม่มีใครปฏิเสธนะครับว่าผู้กระทำความผิดทั้งสองคนได้มีความผิดจริง เนื่องจากการครวจสอบดีเอ็นเอจากคราบอสุจิกับดีเอ็นเอของจำเลยทั้งสองคงเป็นประจักษ์พยานได้อย่างดี แต่ความผิดของคนทั้งสองนี้มันต้องลงเอยด้วยชีวิตเเลกชีวิตเลยงั้นหรือ เเม่ของนักศึกษาสาวยังกล่าวไว้เลยว่าไม่อยากให้มีการประหารชีวิตนักโทษ แต่อยากให้จำคุกตลอดชีวิตมากกว่า

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับคนซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้นำประเทศที่มักจะกล่าวอ้างว่าเค้าได้รับความยินยอมจากประชาชนสิบเก้าล้านเสียงเข้ามาปกครองประเทศ เป็นคนที่กล่าวว่าจะปราบการทุจริต คอร์รัปชั่น ใครผิดว่าตามผิดไม่มีการเล่นพักเล่นพวก ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย

เเต่สิ่งที่ท่านได้กล่าวและได้กระทำตลอดมา มันช่างบังเอิญหรือจงใจก็ไม่ทราบ ท่านทำตรงกันข้ามอย่างที่พูด อยากทำอะไรก็ทำตามอำเภอใจเหลือเกิน จนบางครั้งผมกลับเป็นกังวลขึ้นมาไม่ได้ว่า รึเป็นเพราะเบื้องหลังของท่านที่นิยมการดำเนินชีวิตเเบบผูกขาด ใครดีคนนั้นได้ยิ่งสาวได้ก็สาวเอา ปลาเล็กกินปลาใหญ่ เเค้นนี้ต้องชำระ มันถึงทำให้การเเก้ปัญหาความไม่สงบทางภาคใต้ไม่ได้ทุเลาลงเลย

สังคมมันจะดีได้มันย่อมต้องขึ้นกับคนในสังคมช่วยกันปั้นช่วยกันเเต่ง แต่ถ้าคนที่เป็นผู้นำไม่ได้เป็นเเบบอย่างที่ดีให้กับประชาชนเเล้วไซร้ ก็เหมือนกับเรือหางเสือหัก ที่กว่าจะไปถึงจุดหมายก็คงใช้เวลาหน่อย มันคงยังไม่สายเกินไปสำหรับท่านที่จะเริ่มปฎิรูปตัวท่านเองก่อน เเล้วเริ่มที่คนรอบข้าง แล้วค่อยเผื่อเเผ่ถึงชาวบ้าน เเต่อยากเเรกที่ทำต้องเปลี่ยนคือ ช่วยพูดหลังจากคิดได้มั๊ยครับ

3 Comments:

At 4:07 AM, Blogger Gelgloog said...

เห็นด้วยนะพี่

บ้านเมืองมีขื่อมีแป ไม่ใช่เอะอะจะมาสั่งประหารใครได้ตามอำเภอใจ ผิดก็ว่าตามผิดสิ พิจารณาไปตามกฏหมายซะ

แต่อย่างว่าอะนะ ผู้นำคนนี้ค่อนข้างเป็นผู้ที่มีพรุหวาจาสามหาวเอาเรื่องอยู่ เป็นปรกติวิสัยเหลือเกินที่จะเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้หลายครั้งหลายกาล

อยากจะสรุปเหมือนท่านพี่ช้างนะ

ขอหน่อยเหอะ

ขอเถิด

น่านะ

ไตร่ตรองและใคร่ครวญก่อนพูด

นี่ยังไม่ได้ขออะไรมากมายเลยนะ

ไม่รู้ว่าแค่นี้เฮียเค้าจะทำได้มั๊ยเนี่ย???

 
At 9:20 PM, Blogger The Iconoclast's Journey said...

หลังจากกระผมได้เขียนบทความนี้ขึ้นมา ก็บังเอิญมีข่าวนักบินของลูกทัพฟ้าได้ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตก ท่านก็ได้เห็นเป็นเรื่องตลกในรายการนายกรีอัลลิตี้ว่า สงสัยมัวเเต่มองป้ายบรรหารเเจ่มใส

การพูดในลักษณะนี่ในฐานะของคนที่เป็นหัวหน้าคณะรัฐบาล ผมขอถามหน่อยว่ามีความเหมาะสมเเค่ไหน ถ้าท่านไม่ได้เสียใจออกมาจากใจ ก็นิ่งเงียบไว้เสีย คงไม่มีใครกล่าวครหาท่านได้

แต่นี้กลับกลายเป็นเรื่องตลกไปซะนี่ ผมละหมดคำบรรยาย

 
At 12:29 AM, Anonymous Anonymous said...

เรื่องคำพูดนี่สำคัญนัก .... ก่อนพูดอะไร ต้องไตร่ตรองให้ดี มันจะเป็นนายเราเสมอ หลังจากเราพูดอะไรออกไป

ช้าง คงจะได้เห็น และไม่เดินซ้ำรอย เพราะคำพูดครั้งนี้ คงจะเป็นบทเรียนสำหรับคนทั่วไปตราบนานเท่านานแหละครับท่าน ตอนนี้ พี่นั่งทบทวนเสมอว่า เราเคยวิจารณ์ใครโดยไม่มีหลักการ และข้อเท็จจริงที่หนักแน่น และไม่สุภาพมากขนาดไหน ตั้งแต่เล็กมาจนถึงบัดนี้ .... บัดนี้ ก็ได้เพียงคิดว่า เราคงจะต้องระมัดระวังมากขึ้น เกี่ยวกับการใช้คำพูดคำจานี่แหละ

เฮ้อ ทำไม ดูอะไร ๆ มันวุ่นวายจริงหนอ เมืองไทย ....

 

Post a Comment

<< Home