Saturday, June 02, 2007

เมื่อผมออกเดินทางไปทัศนศึกษา



อยากร้องตะโกนเป็นภาษาเยอรมันว่าเรียนจบไปเเล้วอีกเทอม เทอมที่ผ่านมาตัววิชาที่เรียนนั้นไม่ยากมากอาศัยอ่านเยอะ คิดเยอะ เขียนเยอะ สรุปเเล้วทำอะไรก็ได้เยอะๆไว้ก่อน เเล้วเดี๋ยวได้ดีเอง หลังจากสอบเสร็จผมกะรูมเมทพร้อมเหล่าผองเพื่อนอีกสองสามคน ตะเวนกินสะบั้นหั่นเเหลก ปาร์ตี้กระจุย กินจนท้องบวมอย่างกะห่วงยาง กินกันให้หายอยาก เเถมด้วยเเอลกอฮอล์ตบท้ายเป็นของหวาน

เนื่องด้วยความเครียดจัดหรือเพราะไม่ได้ขับรถไปเที่ยวมานานอย่างไรไม่รู้ อาทิตย์ที่ผ่านมาซึ่งตรงกับวัน Memorial Day เเปลเป็นไทยก็พวก วันทหารผ่านศึกของไอ้กันประมาณนั้น ความคิดริเร่ิมอยากขับรถเที่ยวทัศนาจรก็เริ่มขึ้นสักสี่ห้าวันก่อนเริ่มเดินทางจริงนี่เอง ซึ่งปกติช่วงเทศกาลหยุดยาวๆอย่างนี้ เค้าเเปลนเที่ยวกันเป็นเดือน จองโรงเเรมที่พักที่เป็นเเหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมกันล่วงหน้ากันเป็นชาติ (อันนี้ไม่ได้ล้อเล่น เค้าจองกันข้ามปีก็มีให้เห็น)

ด้วยความเป็นจอมโปรเจค ก็เร่่โทรไปจิกเหยื่อผู้โชคร้ายที่หลงคารมหลอกล่อให้มาติดร่างเเหท่องเที่ยวทัศนาจรไปกับกระผมด้วย เริ่มด้วยร่ายยาวว่าอยากไป Yosemite ซึ่งเป็น National Park ของเมกา ที่น่าไปอยู่ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นอุทยานเเห่งชาติเเห่งเเรกของไอ้กัน ก็ไม่มีไรมาก ป่า เขา ลำธาร น้ำตก พวกโขดหินกะภูเขาต่างๆพวกนักธรณีวิทยาเค้าเล่าว่าเป็นพวกหิน Granite ซึ่ง formation มาเเรมปี ก็ไปโม้กะเหยื่อว่าดีอย่างนั้นอย่างนี้ ขับรถเที่ยวกัน เเวะตามทางประปราย ดูธรรมชาติป่าเขา กินข้าวปิดนิค

ปรากฎว่าเหยื่อหลอกง่ายกว่าที่คิด มีปลามากินเบ็ดสามตัว เมื่อหลอกเหยื่อมาได้จำนวนตามที่ต้องการเเล้ว ยังไม่พอยังมีการหลอกล่อให้เหยื่อทำการศึกษาข้อมูลการท่องเที่ยวด้วย พร้อมขอร้องเเกมบังคับให้หาโรงเเรมที่พักให้ด้วย นั่นเลวเข้าขั้นครับพี่น้อง จริงๆเเล้วผมก็ยังมีความสำนึกผิดอยู่บ้างเล็กน้อยจึงต้องร่วมด้วยช่วยกันหาข้อมูลที่พัก ตัวผมนั้นการนอนเเคมป์นั้นสบายครับ เเต่บังเอิญเรามีเหยื่อที่เป็นนางสาวไปด้วยหนึ่งนาง ซึ่งเเม่นางเป็นคนที่บอบบางมากต่อฝุ่น ควัน ละออง เเละเเสงเดด ผมเลยให้สาวสวยหนึ่งเดียวในทริปนี้เป็นคนเลือกโรงเเรม เจ้าหล่อนดันหาได้ด้วยครับท่าน สมกับเป็นเจ้าเเม่ expedia ตัวจริงเสียงจริง

อีกเรื่องก็ยานพาหานะ อีครั้นจะเอารถกระผมไปนั้นก็กระไรอยู่ถ้าจะขับจากเเอลเอไปโยซิมิตี้ คงออกไปนั่งปิคนิคกันเเค่ชานเมืองเเอลเอเป็นเเน่เเท้ จอมโปรเจคจึงเริ่มเเผนการชั่วช้าอีกประการหนึ่งก็คือ การไปหลอกล่อให้เเฟนเเม่นาง expedia ช่วยจองรถเช่าที่ enterprise ให้ด้วย เเถมเอาบัตรเครดิตชาวบ้านด้วยไม่ใช่ของตัวเองสักอย่างนอกจาก โปรเจค AF เร่ขายฝัน

สรุปที่พักได้ รถได้ เหลือเเต่เเผนเที่ยว คราวนี้เหมือนเหยื่อเริ่มไหวตัวทัน เร่ิมเอะใจว่ามึงนี่ไม่ทำอะไรเลยนี่หว่า ริอาจคิดการใหญ่ ด้งนั้นเจ้าของบล็อคจึงได้รับมอบหายให้ทำการศึกษาเส้นทางการท่องเที่ยวครั้งนี้ ซึ่งเเปลนคร่าวๆก็กะไว้ว่าไปสามวันสองคืน วันเเรกจุดเริ่มต้นการเดินทางที่ Claremont, CA ออกเดินทางเก้าโมงครึ่ง ขับรถขึ้นทางเหนือโดยใช้ฟรีเวย์สายห้า ตกเข้าขวาที่ฟรีเวย์ เก้าเก้า มุ่งหน้าเข้าสู่ Sequaia National Park กันก่อน ไอ้อุทยานนี้ไม่มีไรมาก ก็เเค่มีต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดอยู่ต้นนึงตรงกลางสวน เเต่ระหว่างทางที่ขับนี่คลาสสิคมาก ขนาบข้างไปด้วยเหว ต้นไม้ หลังจากขับรถกันมาสี่ชั่วโมง เราก็ตัดสินใจที่จะกินข้าวกันในอุทยาน ที่จริงต้องบอกว่าโดนผมบังคับมากกว่า ผมก็ทราบว่ามันเลยเวลากินข้าวเที่ยงของคนทั่วๆไปมานานพอสมควรเเต่สำหรับผมที่ชอบกินเข้าเช้ากะข้าวเที่ยงตอนบ่ายๆนั้นสบายมากครับ ประกอบกับไปหลอกล่อเหยื่อว่าขอไปกินข้าวเเบบปรรยากาศในอุทยานกันดีกว่า ซึ่งก็ไม่มีใครขัดข้อง ก็เลยตกลงกันตามนี้ กับข้าวนั้นเเสนง่ายครับ ไก่ผัดเห้ด เนื้อผัดพริก ผัดผักบุ้ง พร้อมข้าวสวย ซึ่งตอนเเรกนึกว่าใส่ไว้หลังรถเเดดจะช่วยอุ่นให้ร้อน ปรากฏว่าไม่ครับเเต่ให้อภัย พอกินได้



อาหารทำเองครับเอาไปสี่ดาว บรรยากาศเอาไปสี่พอ เพราะที่ๆเราไปมันยังไม่คลาสสิคพอ เเถมตอนที่นั่งกินข้าว เเม่นาง expedia นึกว่าผมเล่นตลกเอาขาไปเขี่ยขาเเม่นางเข้า คิดไปได้ครับ คราวนี้ถึงกับมีเฮเมื่อเเม่นางกก้มหน้าลงไปดูพบงูครับ ขนาดกลางๆขู่ ฟ่อๆ ฟู่ๆ อยู่ ไอ้เราก็พยายามเช็คบนหัวอุตส่่าห์เก็บงูไว้ที่บ้านหมดเเล้ว นึกว่าตัวเองทำตกหล่น คราวนี้วงเเตกครับ ผมไม่ค่อยชอบสัตว์เลื้อยคลานอยู่เป็นทุนเดิม ก็พยายามยืนบนเก้าอี้ห่างๆ เเม่นางตอนนี้หันหน้าไปดู นู้่นครับยืนห่างออกไปเป็นเมตร ที่ยืนห่างนี่ไม่ใช่กลัวนะครับ เพราะประวัติเเม่นางนี่ตีงูมาเป็นกะตั้ง เเกกลัวห้ามใจไม่ไหวตีงูมาทำผัดเผ็ดเเทนเนี้อวัว ดีไม่ดีอาจถูกพวก ranger จับข้อหาทำลายสัตว์ป่า พ่อสัตว์เลื้อยคลานของเรานี่มันไม่ขู่อย่างเดียวด้วยมีการชูคอตั้งพร้อมพยายามทำหัวบานๆ พร้อมกับชกเป็นระยะๆ เเต่ดูไปดูมาทำไมมันเหมือนเมาๆ ชูคอได้สักพักก็ล้ม เป็นอย่างงี้สักพัก จนผมนึกว่างูมันปวดฟันคุดจนทนไม่ไหว



พอวงเเตกหลังจากกินเข้าวเราก็ขับรถขึ้นเขาไปได้สักระดับความสุงที่ 9,000 ฟุต เห็นเเล้วครับพี่น้องต้นไม้ยักษ์รอเราอยู่ข้างหน้า


อ้าวขยับมาดูระยะเผาขนกันหน่อย

ลองเปรียบเทียบกันดูเเล้วกันว่าต้นไม้ต้นนี้มันใหญ่ขนาดไหนเมื่อเทียบกับฝรั่งเเคระหนึ่งเดียวของเรางานนี้


เเล้วเเล้วเราก็มาถึงกันจริงๆกับต้น Sequaia ที่ใหญ่ที่สุด เรามาถึงกันเเล้วจริงๆ ดูกันไปพลางๆก่อนเเล้วกันขึ้เกียจเขียนเเล้ว เหอๆๆๆ