Friday, July 29, 2005

Meet The Tiger

อากาศพักนี้ที่เเคลิฟอร์เนียตอนใต้เริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ ขับรถหรือเดินกลางเเดดไม่ถึงสิบนาทีนี่อาจรู้สึกวูบเอาได้ง่ายๆ ร้อนมาจนเเขนกะ หน้านี่ดำไปหมดเเล้ว (ยกเว้นก็เเต่หูนี่เเหละที่ดำมาเเต่ไหนเเต่ไร ทำอย่างไรก็คงไม่ดำไปมากไปกว่านี้) อากาศร้อนๆเเบบนี่พาลเอาทำอารมณ์นี่หงุดหงิดได้ง่ายๆ อย่างอาทิตย์ที่ผ่านมาก็เล่นเอาผมอารมณ์บูดไปเกือบอาทิตย์ทั้งเรื่องงาน เรื่องเพื่อน และเรื่องอื่นๆ อีกที่ยังไม่อยากเอามาโพสในบล็อคตัวเอง ถ้าจะนับเรื่องดีๆที่ผ่านเข้ามาก็คงเป็นเจ้าเเมคไอบุ๊ค จีโฟร์นี่แหละครับ ไม่ว่าจะอากาศร้อน อากาศหนาว มันก็ยังทำงานของมันไปไม่งอเเงตามอากาศ หน้าจอสวยงามพอย้อมใจหลอกตัวเองให้อารมณ์ดีได้อีกนิดนึง

เรื่องของเรื่องมันเริ่มต้นเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้บริษัทเเอปเปิ้ลได้เปิดตัวระบบปฏิบัติการตัวอัพเดทออกมาชื่อ Mac OX Tiger ซึ่งหน้าตาก็คล้ายๆ กะไอ้ตัวเสือ Panther ที่ผมเริ่มใช้มานี่เเหละ เเต่แตกกต่างตรงที่ว่ามันเพิ่มพวก widgets ใหม่ๆเข้ามาในระบบปฏิบัติิการ ที่ผมคิดว่าเพิ่มความสะดวกสบายให้กะผมอีกมากโข ทำให้เวลาใช้งานเครื่องเเอปเปิ้ลเเล้วมีความสนุกเหลือหลาย ก็ต้องขอบพระคุณเพื่อนก่อ เเห่งพิทส์เบิร์ก ที่อนุเคราะห์ส่งเเผ่นโปรเเกรมมาให้ (หลังจากโทรไปทวงหลายที)


ไอ้พวก widgets ทั้งหลายเเหล่นี่ทางเเอปเปิ้ลเค้าจัดรวบรวมไว้ให้เป็นหมวดหมู่ภายใต้ชื่อว่า Dashboard ทึ่จะถูกวางตัวไว้ใน Dock ทางขวามือถัดจาก Finder หรือถ้าใครจะจัดวางตำเเหน่งใหม่ใน Dock ก็คงไม่มีใครว่า อันที่ผมจัดไว้ใช้บ่อยๆ ก็มี Dictionary, Translation, Unit Converter โดยเฉพาะเจ้า Dictionary นี่จะใช้บ่อยที่สุด ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่าผมเป็นคนที่ไม่่ชอบใช้พวก Talking Dictionary หรือ Dictionary ในคอมพิวเตอร์อย่างเเรง เพราะมักจะเเปลกันเเบบง่ายๆสั้น แล้วก็ทำให้ผมงงๆได้หลายๆครา ผมคงเป็นนักเรียนหัวโบราณที่ยังชอบใช้ดิกชันนารี่ อ๊อกซ์ฟอร์ดเล่มใหญ่ๆ (ที่อเมริกานี่เค้าชอบใช้ของ Longman กัน แต่โดยความชอบส่วนตัวเเล้วผมขอเลือกอ๊อกฟอร์ดครับ สินค้าสองอย่างยังไม่สามารถทดเเทนได้อย่างสมบูรณ์) แต่พอได้ลองใช้เจ้าฟีเจอร์ใหม่ของเจ้าเเอ๊ปเปิืลเเล้วนี่ ต้องยอมรับว่าติดใจอย่างเเรง อาจจะเป็นเพราะเป็นดิกชันนารี่ของอ๊อกฟอร์ดด้วยประการหนึ่ง กับประหยัดเวลาผมที่ต้องวิ่งไปที่ชั้นหนังสือแล้วเปิดดิกหาศัพท์ ทั้งยังสะดวกต่อการที่ผมจะหอบเจ้าไอบุ๊คไปเล่นเน็ตฟรีตามที่ต่างๆ ไม่ต้องมาเสียเวลาเเบกดิกเล่มยักษ์ๆอีกเล่มนึง สรุปเเล้วชีวิตผมดูง่ายขึ้นมาอีกนึดกับฟีเจอร์นี้ของเค้าละครับท่าน

นอกจากนี่เเล้วเค้ายังมีฟีเจอร์ให้เล่นอีกมากมาย อย่างเช่นติดตามตารางสายการบิน ตารางหุ้น พยากรณ์อากาศ ตารางนัด และอีื่นๆอีกเพียบ ถ้าที่เค้ามายังให้มาไม่พอ เชิญเลยครับไปหาโหลดกันเอาเองที่เว็บไซด์ทางการของเเอ๊ปเปิ้ลเค้า www.apple.com อ้อไหนๆก็เป็นสาวกเเอปเปิ้ลกะเค้ามาสักพักนึงเเล้น ก็ขอโปรโมทเครื่องเเล๊ปท๊อปให้เค้าหน่อยละกัน ช่วงนี่ใครที่เป็นนักเรียนเเล้วอยากได้คอมราคาถูกใช้ก็ลองเข้าไปหาๆกันดูนะที่เว็บของเค้านั่นเเหละ เค้ามีส่วนลดเล็กๆน้อยๆให้ หนำซ้ำอาจจะได้มินิไอพ๊อดกลับมาเล่นฟรีอีกเครื่องก็เป็นได้นะ

Monday, July 04, 2005

4th of July


วันนี้คงไม่สลักสำคัญอะไรนักสำหรับคนไทย เราอาจจะคุ้นเคยกับคำว่า 4th of July จากหนังเรื่อง Independence Day (ID4) ที่ Bill Pullman เเสดงเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐ ไอ้คนที่ขับเครื่องบินไอพ่นสู้กะจานบินของมนุษย์ต่างดาว แต่ในมุมมองของพวกไอ้กันนี่คงต่างกันออกไป เพราะมันเป็นวันชาติของอเมริกา ดินเเดนที่กล่าวอ้างว่าสิทธิเสรีภาพของปัจเจกชนฝังอยู่ทุกตารางมิลลิเมตรบนดินเเดนทั้งห้าสิบรัฐ

สีปีที่ผ่านมาผมได้รับรู้ประเพณีของวันชาติสหรัฐไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก พิธีรีตองของการเฉลิมฉลองในมุมมองของผมยังด้อยกว่าการเฉลิมฉลองวันพ่อหรือวันเเม่ของไทยเราเสียอีก เพื่อนๆชาวไอ้กันของผมตั้งหน้าตั้งตารอวันนี้นัก เนื่องจากพวกมันๆทั้งหลายจะได้มีวันหยุดยาวๆ อย่างน้อยก็สามสี่วัน บ้างก็ออกไปเที่ยวต่างรัฐ ไปรวมกันที่บ้านญาติคนใดคนหนึ่ง เเล้วก็บาร์บีคิว อันนี้ขาดไม่ได้นะสำหรับพวกไอ้กัน ผมเห็นมันกินเป็นอย่างเดียวในวันหยุดยาวๆ อ้อ ลืมไปมีเบียร์ด้วย

แต่ที่เเตกต่างออกไปจากปีนี้สำหรับผมก็คือผมไม่มีสอบซัมเมอร์เนื่องจากไม่ได้เรียนเเล้ว เคว้งอยู่เหมือนกันนะครับ แต่ยังดีหาเรื่องอื่นทำได้คือตื่นแต่เช้าไปช็อบปิ้ง วันนี้ของเกือบทั้งห้างลดเเบบไม่ลืมหูลืมตา เสื้อผ้าเเบรนด์เนมต่างขนมาลดยั่วยวนกันเหลือเกิน โชคดีหน่อยที่ผมยังไม่ใช่พวกนักช็อบตัวยง ตั้งเป้าไว้ว่าอยากได้อะไร มีงบเท่าไหร่ ผมก็ไม่ค่อยใช้จ่ายจากที่ตั้งเป้ามาเท่าไหร่ อันนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับการเรียนเศรษฐศาสตร์นะครับ ที่สอนให้รู้จักการ allocate limited resources โดยให้ความพอใจในระดับที่ตั้งเป้าหมายไว้

ของที่ได้วันนี้ก็ได้รองเท้าผ้าใบดีเซลมาคู่นึง เสื้อเชิ้ตเเขนยาว และเเผ่นซีดีเปล่ามาสามตั้ง แค่นี้มันก็ทำให้ผมใช้งบประมาณที่มีอยู่หมดลงไปในเวลาไม่ถึงชั่วโมง นึกแล้วก็เสียดายนะ ทำงานมาทั้งวันแต่ใช้ไปแค่หนึ่งชั่วโมง ชีวิตนี้เป็นมนุษย์สัตว์เศรษฐกิจจริงๆ

Friday, July 01, 2005

Tutor

เป็นเดือนอยู่นะครับที่ไม่ได้เข้ามาอัพเดท แต่ก็เข้ามาอ่านบล็อกของชาวบ้านเค้าไปทั่ว หันกลับมาดูบล็อกของตัวเองนี่ยังไม่คืบหน้าไปถึงไหนเลย นิ่งให้ยุงวางไข่มาเกือบเดือน คงไปโทษใครไม่ได้ความผิดตัวเองเเท้ๆ ดันอยากมีบล็อกของตัวเองแต่ไม่มีเวลาดูเเล อย่างนี้ถ้ามีเเฟนเเล้วทำเค้าท้องคงเรียกว่าชิ่งหนีครับ ฮา

เดือนนึงมานี่ก็ถ้าไม่เรียกว่าเเก้ตัวก็ต้องใช้คำว่ายุ่งมากครับ เพราะไม่ว่าจะเป็นที่ทำงานนี่ก็มีความรับผิดชอบเยอะขึ้น ตั้งเเต่หัวหน้างานคนก่อนจากไปก่อนเวลาอันควรเนี่ยะ ผมก็ต้องเทคโอเวอร์ตำเเหน่งเค้าอยู่พักนึงพร้อมกับงานประจำของตัวเอง ทำทันบ้างไม่ทันบ้าง ดองงานเอาไว้นานเหมือนกัน นี่ขนาดเร่งมือทำแล้วนะ เเม่งทำไงก็ไม่ทัน เคสงานบางเคสตามกันมาเป็นชาติ มันก็ยังไม่ค่อยคืบหน้าไปถึงไหน เพื่อนรุ่นพี่สองคนที่ทำงานก็กำลังเรียนจบ ก็ถึงเวลาที่เค้าจะลาออก เเผนกผมก็เหลือกะน้องคนไทยเเค่สองคน ยังไม่พอฮะยังไม่พอ อาทิตย์นี้เจ้านายหนีหน้าคนไข้ ลาพักร้อนยาวอาทิตย์นึง ก่อนไปฝากฝังออฟฟิสซะดิบดี สั่งแล้วสั่งอีก ไม่รู้เหมือนกันว่าอาทิตย์หน้าจะออกหัวออกก้อย ก็ต้องดูๆกันไป แต่ที่เเน่ๆ ทำงานลากยาวชัวร์ เหนื่อยอีกแล้น

พักนี้นอกจากทำงานประจำกับอ่านหนังสือเตรียมเรียนเอกแล้วเนี่ย ยังมีโอกาสรับจ๊อบพิเศษเป็นติวเตอร์นะฮะ อาอย่าได้คิดนะว่าได้เงินดี งานนี้ติวฟรีล้วนๆฮะ ผมว่ามันก็เป็นโอกาสอันนึงของผมนะที่มีคนมาให้สอนหนังสือเเบบตัวต่อตัว โดยปกติเเล้วเนี่ยผมค่อนข้างชินกับการเรียนเเบบอ่านเอาเอง ถ้าไปเจอปัญหาหรือสงสัยอะไรเนี่ยก็ค่อยไปนั่งคุยกะพวกอาจารย์เค้าอีกที บางคำถามนี่ก็ถามเเบบงี่เง่าพอควร ถามเเบบอยากให้มันหายสงสัย ถามเเบบคำถามโลกเเตกหรือไม่ก็คิดเคสเเปลกๆ อาจารย์ก็ดีนะ บ้าจี้ตอบกลับมาด้วย วกกลับมาเรื่องของตัวเอง แต่ก่อนก็มีมาเรื่อยๆนะ เเบบให้อ่านเคสเศรษฐศาสตร์หรือไม่ก็มาร์เก็ตติ้ง หรือให้สอนเลขเเบบเเอลจีบราก็มี แต่คนหลังสุดนี่เหมือนติวเเบบเป็นจริงเป็นจังมาก มีทั้งภาษาอังกฤษ เลข และ การเมือง ซึ่งเป็นวิชาที่ผมเรียนมาเกือบตลอดชีวิตของนักเรียน ความรู้สึกเเรกนี่เหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่เหมือนกัน ประมาณว่ามีความท้าทายเข้ามาใหม่ เเบบสมมติว่ามีคนเข้ามาให้เราลองสอนดูโดยที่เจ้าตัวมีพื้นฐานมาบ้างเล็กน้อย จะสอนอย่างไรให้เค้าเข้าใจในเนื้อหาที่ต้องเรียน เพิ่งเคยสอนเเบบเป็นจริงเป็นจังครั้งเเรกนี่สนุกดีครับ ได้ความรู้ใหม่ๆจากวิชาที่สอนน้องเค้าด้วย พออ่านหนังสือเทกซ์ของน้องเค้า ไอ้เรื่องบางเรื่องที่เรียนมาตอนป โท ที่ไม่ค่อยเข้าใจก็มีความรู้สีึก เเบบว่าอ๋อ มันเป็นเเบบนี้นี่เอง เช่น ประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกา พวกเฟดเดอร์เริลริสกับระบบการเมืองอเมริกัน สอนกันเเบบสนุกๆไม่ซีเรียสเท่าไหร่ หิวก็หาข้าวกิน หรือไม่ก็เเวบไปดูหนังบ้าง หลับบ้างก็เคย เพิ่งเข้าใจตัวเองก็คราวนี้เเหละว่าสอนไม่ได้เรื่อง อธิบายให้คนอื่นเข้าใจอย่างที่เราเข้าใจเนี่ยะลำบาก บางทีน้องเค้าถามคำถามมา เราก็อธิบายไปอีกอย่าง ก็เถียงกันนิดหน่อย ทำให้นึกถึงตอนเรายังเรียนอยู่ที่เมืองไทย "ไอ้ห่าเเม่งถามอาจารย์อย่างเสือกตอบอีกอย่าง พูดจาก็ไม่รู้เรื่อง สอนอะไรวะ" อะนะเพิ่งรู้สึกว่ากรรมมันมีจริงก็คราวนี้อีกที

แต่โดยรวมๆแล้วผมค่อนข้างพอใจกับการสอนจริงๆจังๆครั้งเเรกของผมเหมือนกัน เหมือนกับก้าวเเรกที่ผมตัดสินใจเขียนบล็อก มันก็ต้องมีก้าวเเรกกันบ้าง เริ่มต้นสวยหรูบ้างเห่ยๆบ้าง ก็ค่อยๆปรับกันไป ก็หวังว่ามันคงจะดีขึ้นเรื่อยๆ แล้วคนอ่านละครับตัดสินใจที่จะเริ่มเดินก้าวเเรกในชีวิตกันบ้างหรือยัง