Friday, May 27, 2005

LFC



เป็นเวลานานแล้วนะครับที่ทีมหงส์เเดงเราไม่ได้สัมผัสเเชมป์ถ้วยใบใหญ่ของยุโรป อย่าว่าเเต่เเชมป์ยุโรปเลยครับเเชมป์ในลีกยังหวังยาก ลุ้นเเล้วก็ลุ้นอีก เเม่งก็ยังไม่ได้ เซ็งหัวจิตหัวใจ และก็เป็นลิเวอร์พูลอีกเหมือนเดิมที่ทำให้อารมณ์ลุ่มๆดอนๆของผมในฤดูกาลนี้ต้องลุ้นกันตัวโก่งว่ามันจะได้เข้าไปเล่นถ้วยใบใหญ่ของยุโรปอีกครั้งในฤดูกาลหน้าด้วยการรั้งอับดับสี่ในลีกอังกฤษได้รึเปล่า และสุดท้ายความหวังสุดท้ายกะถ้ายสุดท้ายของฤดูกาลนี้ "เเชมป์เปี้ยนลีค"



ก่อนหน้าที่เพลงบอลจะเริ่มบรรเลงที่เมืองอิสตัลบูล ผมวางเเผนไว้ล่วงหน้าเกือบอาทิตย์ว่าจะขอย้ายเวลาทำงานตัวเองไปเข้าตอนบ่ายๆซักหน่อย กะให้รุ่นน้องที่เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ทำให้เเทน แต่บังเอิญสองวันก่อนหน้าที่เกมจะเลิกดันซวยครับมาทำงานสายเนื่องจากไปเตร็ดเตร่ดึกไปนิด อันที่จริงก็ไม่นิดนะครับกลับบ้านตอนเช้าต้นๆ ก่อนไก่มันจะขัน ไอ้นาฬิกาเนี่ยก็ตั้งปลุกไว้แล้วนะครับ ม่านนี่ก็เปิดไว้เต็มที่กะว่าให้เเสงเเดดตอนเช้าช่วยปลุกอีกเเรง ตื่นมาได้นะเเต่เสือกนอนต่อ ตื่นมาอีกทีอีกสิบนาทีจะเข้างาน หน้าตายังไม่ได้ล้าง งัวเงียก็งัวเงียอย่างเเรง แต่ต้องรีีบไม่งั้นตายฮะ..... แต่อย่างว่าถึงคราวซวยอย่างไรก็คงเลี่ยงไม่ได้ อุตส่าห์ขับบนฟรีเวย์กะว่าไม่ให้ไปสายเกินสิบนาที ขับรถออกจากเเลมป์มาได้ไม่นาน ไฟเเทรฟฟริคเสือกเสียอีก คราวนี้เหมือนฟ้าเเกล้งเลยครับขับรถต่อคิวกันอีกสิบนาทีได้ สรุปเบ็ดเสร็จไปสายเกือบยี่สิบนาที เจ้านายตาเขียวเห็นๆ ข้ออ้างข้างๆคูๆนี่ยังไม่ช่วยให้รอด แล้วอย่างนี้ผมจะมีหน้าไปขอเข้างานสายอีกวันเหรอครับ ฝันไปเหอะมึง (อันนี้คิดไว้ในใจดังๆ)

คราวนี้จะทำไงดีละครับดูสดไม่ได้เอาวะ เพื่อนสมุนเราก็พอมีเเฟนหงส์ด้วยกัน ขอให้มันอัดเทปไว้ให้ดูก็ยังดี เเถมเพื่อนยังใจดีโทรมารายงานข่าวเป็นระยะๆ ครั้งเเรกที่ผมโทรไปถามนี่เสียงเพื่อนนี่เหียกมา เสียงตามสายรายงานมาเอื่อยๆว่า หงส์โดนกระทุุ้งไปแล้วสามศูนย์จากมัลดินี่ลูกเเรก ตามด้วยเครสโปอีกสอง ที่จริงระดับชั้นของผู้เล่นของหงส์ผมนี่เทียบตัวต่อตัวให้เด็กอนุบาลที่ไม่มีจิตใจลำเอียงมันก็คงจะตอบกันเป็นเสียงเดียวกันอะนะว่าชาติหน้ามาเเข่งกันยังไม่รู้ว่ามีสิทธิ์อะเปล่า แต่ยังไงเเฟนหงส์ก็คงยังไม่ถอดใจกันง่ายๆนะฮะ ผมยังมีหวังเล็กๆ เน้นว่าเล็กมากๆ ก็ยังตอบกลับไปว่า เดี๋ยวพลพรรคหงส์ก็ตามเอาคืนได้เสมอสามสาม เกมลูกบอลกลมๆต้องดูกันให้ครบเก้าสิบนาที หงส์อาจพลิกมาตีเสมอแล้วเอาชนะที่จุดโทษก็ได้

ตลอดเวลาของการเเข่งขันครึ่งหลังโทรศัพท์มือถือผมดังเป็นระยะๆ เพื่อนรักโทรมารายงานสดทุกครั้งหลังทีมรักกระทุ้งประตูปีศาจเเดงดำได้ ไม่ว่าทำงานยุ่งอยู่ เจ้านายยืนอยู่ข้างหลัง ตอนนี้ต่อให้ใครต่อใครที่อยากดูเเมทช์คูชิงแล้วต้องมาทำงานเเทนอย่างผม ร้อยทั้งร้อยก็ต้องรับโทรศัพท์ไว้ก่อนละครับ ถึงเเม้ตลอดเวลาการเเข่งขันผมจะไม่ได้ดูบรรเลงเพลงเตะของนักเตะทั้ง 22 คน แต่ใจผมก็ระทึกอยู่นะครับ เเอบลุ้นทีมรักอยู่ จนสุดท่้ายผมกำลังนั่งกินข้าวอยู่ให้ห้องครัว โทรศัพท์สุดท้ายก็ดังขีึ้น เสียงตามสายรายงานด้วยเสียงระรื่นหูกว่าครั้งเเรก จับความได้ว่าหงส์เเดงชนะจุดโทษแล้วก็ได้เเชมป์ปี 2005 ไปครองได้สมใจ เฮ เฮ เฮ.............


เพื่อนรักยังรายงานด้วยว่าอัดเทปไว้ให้ดูด้วย ผมนี่ไม่ได้ร่วมลุ้นกะบรรยากาศสดนี่ก็ขอกลับมายลโฉมความสำเร็จของทีมรักทางเทปก็ได้วะ เลิกงาน 6.30 ผมก็รีบดิ่งตรงไปบ้านเพื่อนทันที ก็โอ้เอ้ๆอยู่สักพัก กว่าจะได้ดูก็เกือบสองทุ่มได้ ดูไม่ถึงนาทีก็ต้องดูลูกที่มัลดินี่วอลเลย์เต็มตีน ยัดไอ้ลูกกลมๆ เข้าไปตุงตาข่ายก่อน ผมดูต่อไปได้สัก 20 นาทีได้ ในขณะที่เบียร์ Corona ขวดที่สองกำลั
จะหมด คีเวล์ครับๆ ปีกพ่อมดจากออสก็ต้องจำใจ กระโผกกระเผกออกจากสนาม ก็มีเหตุให้มีอันต้องหยุดดูไปชั่วโมงกว่าๆ เกือบสี่ทุ่มครี่งได้ ก็พอดีกับเพื่อนรุ่นพี่อีกคนที่รอดูบอลหงส์ด้วยกันกลับมาจากเรียน เราก็พยายามเปิดไอ้ที่เราอัดลงไปในกล่องฮาร์ทดิสของเครื่องเคเบิ้ล ซวยอีกทีละซิครับ ดันบู้ทไม่ได้ โทรไปหาที่ศูนย์เเล้วยังเเก้ปัญหาไม่ได้ เค้าบอกต้องเอาไปเปลี่ยนอย่างเดียว และเสียใจด้วยที่ไม่สามารถกู้ไฟล์ที่หายไปแล้วกลับคืนมาได้ เค้าก็ดีนะบอกเดือนนี้เราก็ไม่ต้องจ่ายค่าบริการรายเดือน แต่คนที่เสียใจกว่าคงเป็นผมครับ อดดูทีมรักประสบความสำเร็จ คืนนี้เป็นอีกคืนหนึี่งที่ผมเข้าใจความหมายของคำว่า "You'll never walk alone" เพราะอย่างน้อยก็ยังมีเพื่อนรุ่นพี่ผมอีกคนที่อดดูเหมือนกัน ฮา .........

Sunday, May 22, 2005

เเมค (Final Denouement)

กะว่าจะนั่งเขียนตอนจบของเเมคตั้งนาน แต่ติดตรงที่ว่าเวลาไม่ค่อยอำนวย เพราะวันๆนอกจากจะไปทำงานฟูลไทม์แล้ว เลิกงานนี่ไม่ไปช็อปปิ้งก็หาที่นั่งกินนั่งเที่ยวอยู่พักนึง ชีวิตช่วงนี่เอื่อยๆเฉื่อยๆมาสักพักแล้ว สงสัยต้องรีบหาเเรงกระตุ้นสักหน่อยจะได้ไม่ขี้เกียจ กลับมาว่าเรื่องเเมคกันต่อ

ตั้งเเต่ได้ใช้กะมันมาสักพักนี่ ผมยังไม่เคยมีปัญหาอะไรกะมันมากมายสักเท่าไหร่นะ ก็ใช้โปรเเกรมทั่วๆไป เอมเอสเอ็น ไมโครซอฟออฟฟิส ไอไลฟ์ จะว่ากันไปแล้วก็ไม่ได้ใช้ยากใช้เย็นอะไรหนักหนา พวกพีซียูสเซอร์ก็น่าจะทำความคุ้นเคยกับหน้าตาของมันได้ไม่ยาก ที่ผมชอบที่จะใช้มากที่สุดก็น่าจะเป็นไอไลฟ์ อย่างเช่น ไอโฟโตที่เอาไว้เก็บรูป ทำสไลด์โชว์ หรือ เอาไว้ประดับตามบล็อคก็ว่ากันไป ส่วนโปรเเกรมฟังเพลงของเเมคนี่เค้าใช้ไอทูนส์ ซึ่งผมว่าหลังๆมานี่ เทรนมาเเรงอยู่เหมือนกันนะครับ โดยตัวโปรเเกรมแล้วเนี่ยค่อนข้างใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน ผมก็ใช้โหลดเพลงจากเเผ่นเอ็มพีสามลงเครื่อง ใช้อัดเพลงลงเเผ่นเก็บไว้ฟังในรถ ซึ่งที่ผมชอบนี่ก็เป็นเพราะความสะดวกสะบาย และความง่ายของไอทูนส์นี่และครับ เพราะไอ้โปรเเกรมนี่มันสามารถเล่นและก็อัดเเผ่น โดยที่เราไม่ต้องเปลี่ยนไปใช้โปรเเกรมอื่นเลย ถ้าใครชอบความสะดวกเป็นที่ตั้งก็อาจจะลองดาวน์โหลดโปรเเกรมมาลองใช้กันดูก่อนก็ได้นะ เพราะเค้าทำให้ทั้งเเมคและวินโดว์ itunes เพื่อติดอกติดใจจะได้หาซื้อเครื่องเเมคมาใช้กันบ้าง

ส่วนคนที่สงสัย อยากรู้ หรือยังลังเลว่าจะเปลี่ยนมาใช้เเมคดีหรือเปล่า ทางเว็บเเอ๊ปเปิ้ลนี่เค้าก็มีให้อ่านดูเหมือนกันว่าทำไม คนที่ใช้พีซีถึงย้ายเเพรทฟอร์มมาเป็นเเมค apple switch เอาเป็นว่าถ้าสนใจก็ลองศึกษาดูเอาละกันตามเว็บไซท์ อ้อเเล้วก็สำหรับคนที่ไม่คุ้นกะการอ่านภาษาอังกฤษสักเท่าไหร่ก็ไปเยี่ยมชมที่เว็บนี้กันได้ macdd เป็นเว็บคนไทยทำ คนไทยใช้ เเต่บริษัทเเมคเจริญ.... เอิ๊ก เอิ๊ก

Sunday, May 08, 2005

เเมคอินทอช Episode 1


ว่ากันว่าเด็กนักเรียนที่จะมาเรียนต่อที่ต่างประเทศนี่ ก่อนมามีปัญหาหนักหัวอยู่เหมือนกันว่าจะซื้อเเลปท๊อปมาจากเมืองไทยหรือจะมาซื้อในต่างประเทศดี ไอ้ที่จะมาซื้อที่ต่างประเทศนี่ก็กลัวมีปัญหาเรื่องลงโปรเเกรม เรื่องฟอนต์ เรื่องเเอ๊บพลิเคชั่นที่เป็นภาษาไทย กลัวว่าจะพูดกะฝรั่งไม่รู้เรื่องอาจลามไปถึงถูกโก่งราคากันไปก็ว่ากันไป ส่วนคนที่ซื้อมาจากไทยนี่ก็คงกังวลเเค่ว่าคอมพิวเตอร์จะสามารถใช้กระเเสไฟ 110V ได้รึเปล่าหรือไม่ก็ราคาที่ล่อใจเหลือเกิน ว่ากันว่าถูกกว่าเมืองไทยกันเยอะ แต่คงติดที่ว่าพอชั่งใจไปมาแล้วคงขี้เกียจมานั่งอินสตอลโปรเเกรม เลยตัดปัญหาซื้อมันมาจากเมืองไทยซะเลย ไม่ต้องมาเสียเวลายุ่งยากเซ็ทเครื่อง สำหรับผมเเลปท๊อปเครื่องเเรกในชีวิตผม ผมซื้อที่นี่ครับ... อเมริกา

ตอนนั้นที่ผมจะเลือกซื้อคอมพิวเตอร์เเบบพกพาไปไหนต่อไหนได้หรือไอ้โน๊ตบุ๊คนี่นะ ผมก็ตัดสินใจอยู่นานอยู่เหมือนกันไม่ใช่เพราะว่าราคามันเเพงหรืออะไรหรอกนะ (เพราะถ้าคุณจะซื้อโน๊ตบุ๊คซักเครื่องนึงราคาของเเต่ละยี่ห้อก็ค่อนข้างจะไม่ต่างกันมากนัก) เเต่เป็นเพราะว่าผมกำลังตัดสินใจจะเปลี่ยนจากพีซีคอมพิวเตอร์เป็นเเมคคอมพิวเตอร์ สำหรับผมนี่เเมคอินทอชนี่ก็คงเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่หลายๆคนมีความคิดตรงกันว่า เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ไว้ทำกราฟฟิคอย่างเดียว ใช้ยาก ราคาเเพง อันนี้ผมไม่เถียงนะครับ เพราะตอนผมเริ่มใช้คอมใหม่ๆนี่ก็เริ่มต้นมาจากพีซีนี่เเหละครับ จับกันมาตั้งเเต่ยังต้องใช้ดอสในการบู๊ทเครื่อง จนต่อมามีวินโดว์ 3.11 มาให้ใช้กัน แล้วมันก็เริ่มมีทายาทออกมาอีกมากมายจวบจนมาเป็นวินโดว์เอ็กซ์พี อย่างที่เราๆ ท่านๆ ได้ใช้กัน กลับมาพูดถึงเครื่องเเมคกันต่อ นอกจากรูปทรงที่ออกจะเเปลกๆ อยู่ซักหน่อย (แต่สาวๆบอกว่าน่ารัก น่าใช้) ไอ้การใช้พวกเเอปพลิเคชั่นนี่ค่อนข้างจะต่างออกไปจากที่เราเคยคุ้นเคยในวินโดว์นะครับ บางทีจะสั่งพิมพ์งานสักหน่อยก็มีปัญหาละ พรินต์เตอร์ไม่ซับพอร์ทบ้างละ ตั้งค่ากันไม่เป็นบ้างละ ซึ่งเป็นเรื่องที่ซับซ้อนของคนใช้งานระดับผมครับ ซึ่งก็ใช้เเค่เล่นเกมส์กะพิมพ์งานก๊องเเก๊งกันไป แต่นี่เป็นเเค่เรื่องจริงในอดีตนะครับ

ก่อนที่ผมจะเริ่มหันมาสนใจดูเครื่องเเอ๊ปเปิ้ลนี่ เเรกๆผมก็เล็งเเต่ไอ้พีซีนี่ละครับดูมันทุกยี่ห้อเอาเเบบราคาไม่เกิน 1,200 เหรียญ บวกลบ 200 กะไว้ว่าขอเเรมซัก 512 MB ฮารด์ดิสซัก 60 GB ชิปนี่ต้องเป็นเซนตริโน่เท่านั้น อุปกรณ์เสริมอื่นๆนี่ก็เป็นส่วนประกอบครับไม่สำคัญสักเท่าไหร่ จนวันนึงเพื่อนผมที่มันเรียนเอกจากพิสท์เบิร์กมันบินกลับมาเรียนต่อหลังจากมันไปพักผ่อนที่เมืองไทย (ไม่รู้ว่ามันได้พักผ่อนจริงหรือเปล่า เเต่ผมว่าน่าจะเหนื่อยทุกคืน) มันไม่อยากนั่งรอเครื่องอยู่ในสนามบินเเอลเอ 8 ชั่วโมง ก็เลยต้องไปรับมันออกมาเดินยืดเเข้งยืดขากะหาอะไรกระเเทกปากซักหน่อย ก็เป็นมันนี่ละครับที่เเนะนำให้ผมรู้จักกะเครื่อง Powerbook ของเเอ๊ปเปิ้ล เห็นคราวนี้ปิ๊งครับเครื่องคอมอะไรออกเเบบมาสวยดีครับ เคสทำมาจากไททาเนียม จอ 12 นิ้วนึกว่าจะเล็กไปหน่อยเเต่เอาเข้าจริงๆ คนไม่มีปัญหาเรื่องสายตาอย่างผมก็ใช้ไม่มีปัญหาอะไร นั่งเล่นกะไอ้เครื่องเเอปเปิ้ลของมันกว่าสองชั่วโมง ก็เเบบเล่นไปถามมันไปว่าราคาเท่าไหร่ สเป็คเครื่องเป็นไง มีปัญหาเรื่องเเอ๊ปพลิเคชั่นรึเปล่า บอกได้คำเดียวครับว่าเหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่ เล่นเเล้วติดใจอยากเล่นอีก
จนมันกลับไปนี่ผมเริ่มหาความรู้ไอ้เจ้าเเอปเปิ้ลจากหนังสือ เว็บ และก็น้องอีกคนที่เรียนอยู่เเอนอาเบอร์ อ้อลืมบอกไปอีกอย่างผมไปเเก่วอยู่เเอปเปิ้ลช็อปเกือบสองอาทิตย์ได้ วันนึงก็เกือบสองชั่วโมงนะครับ ค่อนข้างประทับใจกะร้านเค้าอยู่เหมือนกัน ในร้านของเเอ๊ปเปิ้ลนี่เค้ามีเครื่องให้ลองทุกรุ่นเลยนะครับ ว่ากันตั้งเเต่รุ่นเล็กๆราคาย่อมเยาว์ จะไปถึงรุ่นเดอะราคาสองพันกลางๆ เค้าวางตั้งโชว์ให้ลองเล่นฟรีเลยนะครับ พนักงานก็ค่อนข้างจะเป็นมิตร ไม่มาตอเเยมากมาย มีเเรงขาไม่เมื่อยก็ยืนเล่นไปเหอะ จนผมตัดสินใจซื้อมันนี่เเหละไอ้เเอ๊ปเปิ้ล ibook G4 เพราะทุนน้อยกอปรกับเอามันมาลองก่อนเผื่อใช้ไปนานๆแล้วไม่ชอบ แล้วก็ตอนนั้นนี่ใช้บัตรนักศึกษาทางเเอ๊ปเปิ้ลยังลดราคาให้อีก 100 เหรียญ อ่า... ยังครับยังไม่พอ
ถ้าเกิดอยากได้ไอ้เจ้าไอพ๊อด 20GB พ่วงมาด้วยนี่มันยังลดให้อีก 200 เหรียญนะครับ สรุปเหมือนเป็นช็อทบังคับว่าถ้ามึงจะซื้อเครื่องไอบุ๊คนี่ มึงก็ควรเอาไอ้ไอพ๊อดนี่ไปด้วย ทำไงได้ละครับเรียนเศรษฐศาสตร์มานี่ครับ จ่ายราคาเเพงกว่าอีก 100 นึงเเต่ไอ้ไอ้เจ้าไอ้พ๊อดมาด้วย ยังได้ marginal utility เพิ่มขึ้นมาอีกอย่างน้อย 200 เหรียญ เป็นใครก็ต้องกดมาใช่มั๊ยครับ หรือว่าคุณจะไม่กด???