Wednesday, October 31, 2007

กระดกลิ้น

ทำไมช่วงสอบมันถึงได้ยุ่งขนาดนี้มีเวลาเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ ไอ้ที่ไม่ค่อยมีอยู่เเล้วยิ่งไม่มีเข้าไปใหญ่ เพ่ิงเร่ิมรู้สึกว่าความสามารถคนเรามีขีดจำกัดอีกครั้งก็คราวนี้เอง เครียดมากให้พัก คิดไม่ออกให้หยุดคิด เเล้วก็คิดได้เองว่ามันก็เเค่นี้เอง จะเอาอะไรมากมาย เเค่การเรียนจะเอาไรมากมาย (ถามอีกที) ช่วงที่รู้สึกดาวน์ทางสมองสุดๆ การทำอะไรที่ไม่ค่อยได้ทำมานานนี่ ถือว่าเป็นการคลายเครียดอย่างเเรง อย่างที่คุณหมอว่าอดีนาลีนหลั่งออกมาทำให้ตื่นเต้น เอ็นโดฟินหลั่งออกมาให้มีความสุข เหตุมันเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี้เอง เืพื่อนผมจากพิทส์เบิร์กต้องบินกลับไปเผาศพคุณยายที่เมืองไทย เเล้วต้องมาต่อเครื่องที่เเอลเอ ซึ่งก็เป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมาตลอดหกปีในเมกา ใครผ่านมาเเวะเครื่องนานต้องโทรมาเรียกตัวให้ไปรับออกมากินข้าวเป็นนิจ ไอ้เราก็มีคิวสอบเพียบ อ่านก็ไม่ทัน เเต่ก็เอาวะไม่อยากขัดจารีตที่ปฏิบัติกันมาช้านาน ก็ไปทำตามหน้าที่ซะหน่อย ก็กินข้าวกันปกติ เเต่เหตุมันเกิดตอนขากลับบ้านนี้สิ ขับรถลงจากฟรีเวย์เรียบร้อยอีกสามไมล์ก็ถึงบ้านเเล้ว มีรถขับเเซงหน้าไปเร็วมาก ผมก็ไม่ได้คิดอะไรก็ขับต่อไปเรื่อยๆ จนเกิดไปเเซงหน้ามันเข้า เเล้วก็ไปติดกันหน้าไฟเเดง รถมันติดฟิล์มซะมองไม่เห็นข้างใน ผมก็มองมันไปซักพักจนเลิกมอง ในใจก็คิดว่าเออกูก็ไม่ได้ทำไรมันนี่หว่า เเต่ก็คิดในใจสงสัยเเม่งอยากเเข่งรถวะ รถมันเเต่งมาซะดูเเรงเต็มพิกัด ก็รอไฟเขียวปรากฏพอเขียวปุ๊บมันเอาเลยครับออกเอียด ตอนนั้นสมองผมก็คิดไม่ทันเเต่เท้ากะมือขวาก็ทำงานสับเกียร์กระทืบคันเร่งตามมันไปเหมือนกัน สรุปออกเอี๊ยดทั้งคู่เเต่ผมออกช้าก็มันหนึ่งวินาทีได้ ก็ใส่กันเท่าที่พอจะกล้า เเซงไม่ได้หรอกครับ ไม่กล้าพอด้วยเพราะไม่ได้เล่นอย่างนี้ตั้งเเต่เมืองไทย สรุปเเฟ้ครับ พอรถไปติดไฟเเดงหน้ามันก็ลดกระจกลงมา ผมก็เลยชะลอเทียบข้างๆมัน นึกว่าเเม่งจะด่าห่วยเต็มที่หรือไม่ก็เเถมของลับ เเต่ปรากฏมันกลับยกน้ิวให้ครับ เอาก็เอาวะไหนๆก็ไหนๆก็เลยยกให้มันไปด้วย เเล้วก็หัวเราะเเล้วก็เเยกกันทางใครทางมัน กระดกที่หนึ่งเเพ้เเต่มัน สนุก ตื่นเต้น เเต่ไม่ขอให้เลียนเเบบ กระดกลิ้นที่สองสอบมิดเทอมตัวเเรกเสร็จไปเรียบร้อย เป็นอันว่าวิชาที่มีตัวเลขมหาโหดผ่านไปโดยดี ด้วยความไม่เข้าใจ ทำไงได้ทำเท่าที่ทำได้ ดันสอบวันคืนปล่อยผีจะมานั่งเศร้ากับผลสอบอยู่ใย ขอตัวไปกระดกลิ้นที่ Halloween Party ก่อนละครับ

Thursday, October 11, 2007

3-1

ห่างหายจากการเขียนบล็อคมาเป็นหลายอาทิตย์ มองดูอีกทีก็ปาเข้าไปสองเดือน จะเขียนๆก็มีเรื่องให้ต้องทำตลอด อย่างปิดภาคฤดูร้อนที่ผ่านมาว่าจะอ่านพวกเลขกะพับพลิคช๊อยส์ให้จบ ก็ไม่จบกระสุนพลาดเป้าไปเหลือหลาย เวลาส่วนใหญ่หมดไปกะการทำงานกะเที่ยวเล่นไปตามระเบียบ มีอยู่เรื่องเดียวที่พอเข้าเป้าคือเรื่องสอบวัดเกณฑ์ของ ป เอก ผมว่าหลายๆคนที่เรียนอยู่โดยส่วนใหญ่น่าจะผ่านประสบการณ์อันน่ารันทดเหมือนกัน (อนุมานว่าเรียนสาขาเดียวกันนะ) เนื่องจากจะต้องสอบกลางภาคกับปลายภาคให้ผ่านในเกณฑ์ดีเเล้วนั้น ยังต้องเผชิญชะตากรรมในการสอบวัดผลวิชาหลักของสาขาอีก โปรเเกรมที่ผมเรียนอยู่นั้นค่อนข้างยืดหยุ่นกับการกำหนดเวลาสอบพอควร พูดง่ายๆว่าพร้อมเมื่อไหร่ก็ไปลงชื่อกะทางเลขาคณะว่าจะขอสอบวิชานั้นวิชานี้ตามรอบที่เค้าเปิดให้สอบ ซึ่งปกติจะเปิดสองรอบต่อปี ในปีเเรกผมไม่ได้สอบวิชาใดๆเลย มัวเเต่ลงไปซิทอินเป็นส่วนใหญ่ เพ่งมาเริ่มวางเเผนสอบก็ต่อเมื่อรู้ว่าปีการศึกษาหน้าวิชาที่ผมจะสอบนั้นจะเปลี่ยนตัวผู้สอน ดังนั้นก็ควรจะรีบๆสอบให้เสร็จๆไม่งั้นคงเเย่เเน่ๆ

วิชาที่ผมต้องสอบก็มีตัวเเรกระหว่างเเมคโครหรือไมโคร ตัวที่สองเป็นพับบลิคช๊อยส์ ตัวสุดท้ายเป็น การเมืองระหว่างประเทศ หลังจากลังเลๆว่าจะสอบไมโครหรือเเมคโครดี ก็เลยไปถามๆอาจารย์ดูว่าจะสอบตัวไหนดี เพราะส่วนตัวผมชอบไมโครกว่าเเมคโครเยอะกว่ามาก ก็ไปคุยกะอาจารย์ทีสอนไมโครว่าโอกาสที่จะขอสอบเป็นไงบ้าง เเน่นอนครับ เนื่องจากผมไม่เคยลงกะเเกเลย อาจารย์เลยกล่าวลอยๆว่า บอกให้ลงเรียนไปหลายครั้งเเล้ว ไปนั่งเฉยๆก็ได้ ไม่ทำ เเล้วจะมาสอบกะเเก ถ้าไม่เก่งจริงก็คงไม่ผ่าน เเล้วเเกก็ซักประวัติว่าจบจากไหนมา เรียนเป็นไงมั่ง สุดท้ายเเกสรุปว่าวิชาไมโครที่ผมเคยเรียนมาเทียบไม่ได้กะที่เเกสอน ถ้าไม่เคยลงเรียนเเล้วสะเออะจะสอบ ตกอย่างเดียว สรุปไปขอความเห็นเฉยๆกับโดนห่าฝนเป็นชุดใหญ๋

กลับมาก่ายหน้าผากคิดอีกทีเหลือทางเดียวคือสอบเเมคโคร วิชาที่ไม่คอ่ยถูกโฉลก ก็เเจ้นไปหาอาจารย์ที่ปรึกษาอีกคนว่าจะขอสอบตัวนี้เเทนได้มั๊ย (ภาคที่ผมเรียนให้เลือกสอบตัวใดตัวหนึ่งระหว่างเเมคโครกับไมโคร) ก็บอกอาจารย์ไปด้วยว่าตัวนี้ไม่เคยลงเเต่จะขอสอบได้มั๊ย อาจารย์ที่ปรึกษาเเกก็ซักถามพอเป็นพิธีว่า มีเลคเชอร์มั๊ย มีข้อสอบเก่าทำมั๊ย เเล้วเคยมีเพื่อนที่เรียนตัวนี้ติวหนังสือด้วยรึเปล่า อารมณืว่าอยากสอบตัวนี้ก็เลยตอบครับๆ ไปก่อน สุดท้ายเเกก็อนุญาติให้สอบตัวนี้ เป็นอันได้ลายเซ็นต์เเกมาเอาไปยื่นกะทางเลขาคณะได้ทันเวลา

ก็เลยได้เริ่มๆอ่านตอนเดือนที่สองของปิดภาคเรียนฤดูร้อน เเต่ก็ออกตะเวนเที่ยวกันทุกอาทิตย์ เพื่อนถามก็ตอบยังอยู่บทเเรกอยู่เลย จนมาคิดได้ก็ตอนเดือนหลังๆซึ่งใกล้สอบเข้ามาทุกที ไม่รู้ว่านึสัยอย่างนี้ทำไมถึงได้เเพร่หลายในหมู่นักเรียน นักศึกษาก็ไม่ทราบ ดินพอกหางหมู เเล้วเอาไฟมาลนๆ กลับวิ่งกระฉูด ยังจำได้ว่าวันก่อนสอบยังอ่านไม่จบเลย กะทิ้งบทสุดท้ายเเน่ๆ ไม่อ่านมันเเล้ว เเต่เวลายังเหลือก่อนเก้าโมง เอาเป็นว่าอ่านจนนาทีสุดท้าย ปรากฎพอตอนเข้าห้องสอบ เลขาคณะเดินเเจกคำถาม เฮ้ยทำไมมันไม่มีเค้าโครงข้อสอบเก่าที่จำมาเลยวะ เหลือไปอ่านข้อสุดท้าย ปรากฏว่าไอ้ที่อ่านมาเมื่อเช้า ดันออกวะ ก็ใช้เวลาในชั่วโมงเเรกอ่านโจทย์ที่เราจะเลือกทำ (เค้าให้หนึ่งชั่วโมงในการอ่านโจทย์ สามารถขึดๆเขียนๆบนกระดาษทดที่เค้าเเจกมาให้ได้ เเต่ยังไม่มีการเเจกกระดานคำตอบ) ก็นั่งขีดเส้นกราฟตัดกันไปตัดกันมา ดูย่งเหยิงเป็นที่สุด ก็ใช้เวลากันจนนาทีสุดท้ายในการทำข้อสอบ จากสิบสี่ชีวิตมีผมกะเพื่อนคนจีนออกก่อนเพราะเราสอบกันเเค่ครึ่งเดียวของทั้งหมด เวลาทำข้อสอบเราจึงสั้นกว่าคนอื่น ออกจากห้องมาด้วยความสบายใจว่าอย่างน้อยก็ได้สอบไปเเล้ว ที่เหลือก็นั่งล้นเอา ออกมาเลขาคณะตะโกนมาเเต่ไกลว่าทำได้รึเปล่า ก็ตอบเเบบห้าสิบๆไปก่อน เเต่บอกเต็มปากเต็มคำว่าได้ทำเเน่ๆ เเต่ไม่รู้ผ่านหรือตก

เวลาก็ผ่านไปเกือบเดือนพอดี ขาดตกบกพร่องก็เเค่สองสามวัน วันนั้นทำงานตั้งเเต่เช้าเเปดโมงยันสี่โมง ตอนเช้าห้องคอมตอนบ่ายทำวิจัยกะอาจารย์ที่ รร ข้างๆ ก็เดินลงมาจะไปเรียนอีโคโนต่อ ก็บังเอิญเจอเลขาคณะก็หยุดทักทายกันเล็กน้อย เเล้วก็เดินกลับมหาลัยด้วยกัน ผมก็ชวนคุยไปเรื่อยเเต่ก็ไม่กล้าถามผลสอบมากนัก เพราะช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมาผมโทรไปเช็คบ่อยมากว่ารู้ผลรึยัง จนจะเเยกกันผมเลยโพร่งถามไปเล่นๆว่า รู้ผลรึยังละวันนี้ ปรากฏเเกตอบกลับมาว่ารู้เเล้วเพ่งได้มาเนี่ย ผมก็เอาเเล้วครับ คำถามใส่เป็นชุด เริ่มจากผ่านเยอะมั๊ย ผมผ่านรึเปล่า เลขาก็ทำท่านึกๆก็บอกไม่เห็นชื่อผมในคนสอบตกนะ ผมก็คาดคั้นเเกจนบอกผมเปลี่ยนใจไม่เข้าห้องเรียนเเล้ว ขอเดินไปกะเเกดูผลสอบให้มันเเน่ๆดีกว่า เพราะอารมณ์นั้นไปเรียนก็ไม่รู้เรื่องเเล้ว ก็เดินมาจนถึงห้องทำงานเเก เเกก็เปิดเเฟ้มขยับเเว่น พูดเสียงดังฟังชัดว่าดีใจด้วยนะเธอผ่าน ถึงอารมณ์นี่ผมก็ไม่ได้ดีใจมากนัก เพียงเเต่โล่งใจว่าผ่านวิชานี้ไปได้ก็ดี ไม่ต้องกลับมาอ่านใหม่ จะได้ตั้งหน้าตั้งตาอ่านอีกสองตัวที่เหลือ ซึ่งผมก็ลงชื่อสอบไปเเล้ว ก็ต้องดูเอาละครับว่าที่เหลือจะเป็นไง นั่นก็เป็นที่มาของ 3-1 ไม่ใช่เเต้มต่อของทีมลิเวอร์พูลเเต่อย่างใด